อ่านคำถามเสร็จลองคิดคำตอบก่อนนะ

ว่าจะตอบเหมือนครูมั้ย

.

.

.

.

.

.

คำตอบแบ่งออกเป็น 2 ตำตอบ

คำตอบที่ 1

หากกิจการนั้นได้ประกอบกิจการในนามบุคคลธรรมดา และได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในนามบุคคลธรรมดา

ทั้งชื่อและที่อยู่ ถูกต้องตามแบบ ภพ.20 ที่ทำในนามบุคคล

กิจการนั้นสามารถนำมาเป็นรายจ่ายของกิจการได้และสามารถนำภาษีซื้อมาหักออกจากรายงานภาษีขายได้และยังสามารถเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้เช่นกัน

คำตอบที่ 2

หากกิจการนั้นทำในรูปแบบของ หจก. หรือ บจก.

โดยที่ตั้งตามเอกสาร ใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ค่าไฟฟ้านั้น

ตรงตามที่ตั้งของกิจการ ซึ่งมีการประกอบการจริง

ถึงแม้ว่าเอกสารนั้นจะเป็นชื่อบุคคล ก็สามารถนำมาลงเป็นรายจ่ายของกิจการได้ เพราะเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการโดยตรง ไม่ต้องห้าม

ซึ่งกรมสรรพากรได้ให้หลักเกณ์วิธีการไว้เป็นแนวทางใน คู่มือการจัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชีที่สามารถเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ ดังนี้

1. สัญญาเช่าอาคาร ซึ่งระบุให้ ผู้เช่า เป็นผู้ชำระค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา

2. ใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงินปรากฏเป็นชื่อผู้อื่น แต่กิจการมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า กิจการเป็นผู้จ่ายเงิน เช่น ใบสำคัญรับเงิน หรือ ใบรับรองแทนใบสำคัญรับเงิน

3. จัดทำใบสำคัญจ่าย (Payment Voucher) พร้อมแนบหลักฐานการจ่ายเงิน เช่น สำเนาเช็คหรือสำเนาใบโอนเงินผ่านธนาคารหรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เป็นต้น

ในส่วนของภาษีซื้อนั้น เมื่อเอกสารชื่อไม่ตรงตามแบบ ภพ.20 ก็ไม่สามารถที่จะนำใบกำกับภาษีซื้อนั้นมาเคลมได้

แนะนำ : ควรติดต่อกับการไฟฟ้าฯ หรือการประปาฯ เพื่อขอเพิ่มชื่อของบริษัทฯ ลงในใบกำกับภาษีโดยเพิ่มเติมข้อความว่า “จ่ายชำระค่าบริการโดย บริษัท…” ลงไปด้วย บริษัทฯ มีสิทธินำภาษซื้อตามใบกำกับภาษีดังกล่าว ไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 ได้ (หนังสือที่กค 0702/พ./1319 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552)

—————————————

ในส่วนของบัญชีคงสงสัยกันใช่มั้ยคะ ว่าจะบันทึกบัญชีอย่างไร กรณีที่บิลไม่ได้ออกในนามบริษัทอย่างถูกต้อง

DR.ค่าไฟฟ้า

DR.ภาษีซื้อขอคืนไม่ได้

CR.เงินสด/ธนาคาร