Blog

325736467_1612280139272014_1884584963593676519_n

กำไรน้อยยยมาก แต่ ทำไมเสียภาษีเยอะจัง

💸💰กำไรน้อยยยมาก แต่ ทำไมเสียภาษีเยอะจัง 😭
🤓 เจ้าของธุรกิจหลายๆคนมักจะเข้าใจผิด นั่นคือ เรื่องของการที่วางแผนทำให้กิจการของตัวเองนั้น “ขาดทุนหรือกำไรน้อยยยยย” เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียน้อยยยที่สุด
โดยส่งค่าใช้จ่ายทุกอย่างมาให้บัญชีลงบัญชี รวมถึงรายจ่ายส่วนตัวเอามาเนียนๆลงให้พี่หน่อย ประมาณนั้น ไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัว ของเล่นลูกเอย เครื่องออกกำลังกาย ฮืมมมม😂😂
นี่แหละค่ะ!!! คือ เรื่องเข้าใจผิดที่เป็นปัญหาอย่างมากในการจัดการภาษีธุรกิจ เพราะว่าการเสียภาษีนั้นไม่ได้เกี่ยวกับ “กำไรหรือขาดทุนทางบัญชี” ที่ธุรกิจได้ทำมา แต่มันเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า “กำไรขาดทุนสุทธิทางภาษี” ต่างหาก
นักบัญชี การจะทำบัญชีเค้าก็ต้องวิเคราะห์รายการค้าก่อนว่า
✅อะไรเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการ
❌อะไรคือรายจ่ายต้องห้าม
📍หลักคือ
นักบัญชี ทำบัญชีตามมาตรฐานการบัญชี
ผู้ประกอบการ เสียภาษีจากกำไรทางภาษี
ไม่ใช่กำไรทางบัญชีนะคะ
🥰วันนี้เราจะพามาทำความเข้าใจ ศัพท์บัญชี
แบบอย่างง่ายกันนะคะ
⏭️ กำไรทางบัญชี คืออะไร ?
“กำไร/ ขาดทุนทางบัญชี” หมายถึง กำไร/ขาดทุนที่เป็นตัวเลขจริงๆตัวเลขการเงินที่เกิดขึ้นในบริษัท เพื่อให้เห็นผลประกอบการของบริษัทที่แท้จริงว่าได้กำไรหรือขาดทุนมากน้อยแค่ไหน⁉️
⏭️กำไร/ขาดทุน ทางภาษี คืออะไร ?
“กำไร/ขาดทุน ทางภาษี” คือฐานที่ใช้ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยการปรับปรุงรายการดังต่อไปนี้ เพื่อเสียภาษีตามกฎหมาย
1.รายได้ที่ถือว่าเป็นรายได้ – แต่ในแง่ของภาษีถือว่านี่คือรายได้ เช่น ดอกเบี้ยที่มาจากการกู้ยืมเงินของลูกหนี้ เป็นต้น
2.รายได้ที่ได้รับการยกเว้น – สำหรับกำไรทางบัญชีนั้นถือว่าเป็นรายได้ แต่ในทางภาษีไม่ถือว่าเป็นรายได้ เช่น ปี 64 ที่รัฐอุดหนุนให้กับผู้ประกอบการเป็นต้น
3.รายจ่ายต้องห้าม – บางรายการที่ถูกบันทึกว่าเป็นรายจ่ายในบัญชีบริษัท แต่ในทางภาษีไม่ถือว่าเป็นรายจ่าย เช่น รายจ่ายส่วนตัวกรรมการ เป็นต้น
4.รายจ่ายที่สามารถหักมากขึ้น – เป็นรายการที่บริษัทไม่บันทึกเอาไว้ว่าเป็นรายจ่าย แต่ในทางภาษีถือว่าเป็นรายจ่าย เช่น รายจ่ายที่มาจากการส่งพนักงานไปอบรม เป็นต้น
📍สมการทางบัญชี
รายได้ทั้งสิ้น
หัก ต้นทุนขาย/ต้นทุนบริการ
กำไรขั้นต้น
หัก ค่าใช้จ่ายในการขาย
หัก ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
กำไร/ขาดทุนสุทธิทางบัญชี
บวกกลับ รายจ่ายต้องห้าม
รายได้ที่ให้ถือเป็นรายได้ทางภาษี
หักออก รายจ่ายที่มีสิทธิหักได้เพิ่มขึ้น
รายได้ที่ได้รับสิทธิยกเว้น
กำไรขาดทุนก่อนหักเงินบริจาค
หัก เงินบริจาค
กําไร(ขาดทุน)สุทธิทางภาษี
ตัวอย่างกระดาษทำการเพื่อเสียภาษี
😄 ดังนั้น การวางแผนภาษีธุรกิจที่ถูกต้องนั้นไม่ใช่การเพิ่มรายจ่ายอะไรก็ได้ แต่เราต้องเพิ่มรายจ่ายที่สามารถเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ (หักได้เพิ่มขึ้น) เช่น ค่าใช้จ่ายในการอบรมสัมมนา ค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างคนพิการ หรือค่าใช้ต่างๆที่กฎหมายกำหนดให้เป็นรายจ่ายได้มากขึ้น และระวังเรื่องรายจ่ายต้องห้ามทางภาษีให้มากขึ้น
👉 รายจ่ายต้องห้าม
👉คู่มือการจัดทำบัญชี
รวมถึงการหลบเลี่ยงรายได้ของบริษัท ก็ไม่พ้นอยู่ดีเพราะอาจจะต้องไปกังวลภาษีย้อนหลังในนามบุคคลธรรมดาอยู่ดี
😂 ตอนหลบ ก็แต่หลบรายได้ แต่เอารายจ่ายทุกอย่างเอาเข้าบริษัท บัญชีรู้นะคะ ว่าหลบรายได้จากตัวเลขในงบการเงิน แล้วสรรพากรจะดูไม่ออกเชียวเหรอ ยิ่งถ้าเจอนักบัญชีที่ทำบัญชีตามเอกสาร และให้เสียภาษีโดยขาดการวางแผนก่อน ก็สนุกละคะทีนี้
🙏🙏 หวังว่าอ่านบทความนี้จบแล้ว เจ้าของธุรกิจทั้งหลายจะเห็นความสำคัญของเอกสารทางบัญชีมากยิ่งขึ้นได้แล้วนะค่ะ ทั้งเพื่อความสุขของนักบัญชีเอง และความสุขอนาคตที่ธุรกิจของเราจะไม่มีปัญหากับพี่สรรพากรอีกด้วยค่าาาา